เด็กอายุน้อยกว่า18ปีที่ได้รับเชื้อโควิดมีความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นถึง 33%-166%

ข้อมูลใหม่ล่าสุดที่เพิ่งประกาศลงในwebsiteของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention, CDC) เมื่อวันที่ 14 มกราคม-เมื่อวานนี้ น่าจะชวนให้ผู้บริหารโรงเรียนและผู้บริหารประเทศได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดเรียนกันบ้าง

เภสัชขอสรุปเป็นภาษาง่ายๆให้นะคะ หากสนใจเรื่องรายละเอียดหรือขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล ไปติดตามอ่านฉบับเต็มได้ที่อ้างอิงด้านล่างค่ะ

1. ที่มาของทีมวิจัยชุดนี้คือ โควิดทำให้ผู้ป่วยเบาหวานแย่ลง นักวิจัยจึงสงสัยว่า การติดโควิดไปเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานหรือไม่ 2. การศึกษาในก่อนหน้านี้ในกลุ่มประเทศยุโรป พบว่าเด็กที่เป็นโควิด พบว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทีมวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำการเก็บข้อมูลจากฐานข้อมูล IQVIA และ HealthVerity ในเด็กช่วงอายุ น้อยกว่า 18 ปี จำนวน 1,698,753 คน และ 878,878 คนตามลำดับ โดยทำการจับคู่ทั้งเพศ และอายุของเด็ก เปรียบเทียบ 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ติดโควิด, กลุ่มที่ไม่ติดโควิด, กลุ่มที่เคยติดเชื้อทางเดินหายใจที่ไม่ใช่โควิดในช่วงก่อนโควิดระบาด 3. อายุเฉลี่ยในงานวิจัยอยู่ที่ 12.3 ปี หรือวัยประมาณ ป.6-ม.1 บ้านเรา พบว่า 3.1 นำข้อมูลในฐานข้อมูล IQVIA มาวิเคราะห์พบว่า #กลุ่มเด็กที่เคยป่วยด้วยโควิดได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ติดโควิด ที่อายุและเพศเดียวกัน สูงถึง 166% 3.2 นำข้อมูลในฐานข้อมูล HealthVerity มาวิเคราะห์พบว่า กลุ่มเด็กที่เคยป่วยด้วยโควิดได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ติดโควิด ที่อายุและเพศเดียวกัน 31% 4. ข้อมูลทั้งหมด #ยืนยันว่าเด็กอายุน้อยกว่า18ปีที่เคยป่วยด้วยโควิดมีโอกาสเป็นเบาหวานทั้งชนิด1และ2สูงกว่ากลุ่มที่ไม่เคยติดโควิดและกลุ่มที่ติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับงานวิจัยจากกลุ่มประเทศยุโรปที่เคยตีพิมพ์มาก่อนหน้านี้ 5. กลไกของการเกิดเบาหวานทั้งชนิดที่1และ2ในเด็กที่เคยติดโควิดมีความซับซ้อนมาก ซึ่งจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาทางป้องกันต่อไป สิ่งที่ #CDCแนะนำให้ทำหลังจากนี้คือเด็กทุกคนที่เคยติดโควิดจะต้องได้รับการติดตามเรื่องภาวะเบาหวานอย่างสม่ำเสมอ

โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคไต หากเด็กกลุ่มนี้เป็นเบาหวานเร็ว แน่นอนว่าอายุที่จะต้องล้างไต อาจจะอีก 20 ปีข้างหน้า คือต้องล้างไตตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 40 ปี เนื่องจากระยะแรกๆเบาหวานอาการแสดงน้อยโดยเฉพาะในเด็ก จนเรียกได้ว่าเป็นมัจจุราชเงียบ คือกว่าจะรู้ว่าเป็นเบาหวานตาก็มัวจนเกือบบอดแล้ว

ปัญหานี้นอกจากจะกระทบกับคุณภาพชีวิตของเด็กแล้ว ยังกระทบถึงงบประมาณทางสาธารณสุขในอนาคต GDPของประเทศ ที่วัยทำงานในอนาคตอีกจำนวนมากต้องมารักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน

เภสัชขอร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนและผู้บริหารระดับจังหวัด หรือแม้แต่ผู้บริหารระดับประเทศคิดให้ดีก่อนจะเปิดโรงเรียน ในพื้นที่ที่มีการระบาดมาก อย่าเพิ่งเปิดเลยค่ะ.....มีแต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ลงหน้างานจึงตอบได้ อย่าดูตัวเลขที่ส่งต่อกันมา เพราะมันไม่ใช่ตัวเลขจริง

หากท่านใดสงสัยว่าข้อมูลนี้จริงไหม ข้อมูลนี้เชื่อถือได้หรือไม่ อ่านเต็มๆได้จากlink นี้เลยค่ะ.....ส่วนตัวเภสัชขอบอกว่า ถ้าไม่เชื่ออันนี้ก็ไม่ต้องไปเชื่อข้อมูลอะไรแล้วค่ะ ข้อมูลแข็งแรงมาก สถิติแน่น แจงละเอียด ระดับ CDCลงwebsite ไม่มั่วแน่นอน

https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/71/wr/mm7102e2.htm#T1_down #แสงทองเภสัชหาดใหญ่ #เบาหวานในเด็กติดโควิด