top of page

โนโรไวรัสคืออะไร???

ช่วงนี้เจอคุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆมาที่ร้านด้วยอาการอาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ปวดท้อง ปวดศรีษะ มีไข้กันเยอะเลย


หากเด็กๆมีอาการอาเจียนมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แนะนำว่ารีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลได้เลยนะคะ เพราะเด็กอาจจะเกิดภาวะขาดน้ำได้ (สังเกตจากริมฝีปากแห้ง หรือขมับบุ๋มร่วมกับการซักประวัติการดื่มน้ำค่ะ) ถ้าคุณหมอจะให้แอทมิทก็ไม่ต้องตกใจ เพราะหมอจะได้ให้น้ำเกลือเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปได้


อาการดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือเชื้อไวรัสที่ ชื่อ โนโรไวรัส (Norovirus) ซึ่งระบาดอย่างมากในช่วงนี้ แพทย์จะวินิจฉัยได้จากการตรวจอุจจาระในห้องปฏิบัติการ


โนโรไวรัสคืออะไร???

โนโรไวรัส เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งระบาดได้รวดเร็วและติดต่อได้ง่าย จึงพบว่าเป็นสาเหตุหลักของการระบาดของการติดเชื้อท้องเสียที่ไม่ใช่เชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยที่สุดในโลก ทั่วโลกมีผู้ป่วยประมาณ 250 ล้านคนและเสียชีวิตลง 2 แสนคนต่อปี ส่วนใหญ่พบได้ในฤดูหนาว หรือที่ที่มีอากาศเย็น หรือที่มีผู้คนมาอยู่ร่วมกันมากๆ เช่น ในโรงเรียน สนามเด็กเล่นในร่ม บ้านบอล โรงพยาบาล เด็ก ผู้สูงอายุหรือคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะติดต่อได้ง่าย มักแสดงอาการภายในระยะเวลาสั้น 18-72 ชม.หลังจากได้รับเชื้อ


ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้จัดการไวรัสชนิดนี้โดยตรง แพทย์จึงให้การรักษาทำได้ตามอาการ เช่นให้ยาต้านอาเจียน ยาลดไข้ แก้ปวดเกร็งท้อง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ(น้ำเกลือ) เป็นต้น หากไม่มีปัญหาอื่นๆแทรกซ้อนคนไข้ไม่ต้องได้รับยาปฏิชีวนะค่ะ เพราะยาใช้ไม่ได้ผลในการติดเชื้อไวรัส


หากผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัส แนะนำให้ดื่มน้ำตาลเกลือแร่ รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้มปลา ครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง งดนมที่มีแลคโตสเพราะจะไปกระตุ้นให้มีการถ่ายเหลวมากขึ้น (ปัจจุบันหานมที่ไม่มีแลคโตสได้ง่ายในร้านสะดวกซื้อ สังเกตฉลาก Lactose free หรือปราศจากแลคโตส)


การป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส

1. เชื้อไวรัสนี้สามารถติดต่อได้จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ดังนั้น ถ้าลูกหลานป่วย หรือเพิ่งหายป่วย อย่ารีบไปโรงเรียนค่ะ เดี๋ยวเด็กๆคนอื่นๆจะป่วยตาม 2. ไวรัสชนิดนี้พบได้บ่อยในน้ำดื่ม น้ำแข็ง ผักและผลไม้สด จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำที่ไม่มั่นใจในความสะอาด ใช้ช้อนกลาง และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ 3. ก่อนรับประทานอาหารหรือเอามือเข้าปากต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง 4. หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด หรือในที่ที่มีเด็กมากๆ เช่น สนามเด็กเล่น บ้านบอล เป็นต้น

ree

อ้างอิง ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลพญาไท ภาพจาก กรมควบคุมโรค

 
 

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด
การใช้ยาละลายเสมหะในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ

#ทำไมไม่ควรซื้อยาละลายเสมหะในอินเตอร์เน็ตกินเอง โดยเฉพาะกรณีเด็กเล็ก อายุน้อยกว่า2ขวบ หน้าฝน หน้าหนาวมาแล้ว...มีลูกค้าหลายรายมาหายาละลายเ...

 
 

หัวข้อสนทนาที่น่าสนใจ

bottom of page